Bruno Fernandes รับไม้ต่อจาก Harry Maguire ที่เคยสร้างชื่อเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก ในฤดูร้อนของปี 2019 เมื่อย้ายจาก Leicester มาอยู่กับ Manchester United ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ และยังได้รับตำแหน่งกัปตันทีม แต่หลังการเข้ามาของ Erik ten Hag ก็หลุดจากตำแหน่งกองหลังตัวหลักของทีม และก่อนจะเปิดฉากฤดูกาล 2023-24 ก็สูญเสียปลอกแขนกัปตันทีมไปอีก
ตอนนี้กัปตันทีมคนใหม่ก็คือ Bruno Fernandes มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส และเป็นนักเตะคนที่ 6 ที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม “ผีแดง” นับตั้งแต่สิ้นสุดยุคของ Sir Alex Ferguson และนับตั้งแต่ปี 2014 เมื่อ Nemanja Vidic ออกจากสโมสรไป เขาคือกัปตันทีมที่มาจากชาติอื่นในยุโรป
การส่งมอบกัปตัน Bruno กับ Harry Maguire
Fernandes จะสามารถทำลายกำแพงด้วยการเป็นกัปตันทีม Manchester United ที่นำความสำเร็จมาสู่ทีมได้หรือไม่ เพราะ ในยุคของกุนซือชาวดัตช์ก็พบกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง มีทิศทางที่ดีขึ้น ขุมกำลังก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก และมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสก็เป็นเพลย์เมคเกอร์คนสำคัญของทีมเสียด้วย
ล่าสุด Fernandes ก็ฉลองตำแหน่งด้วยการทำประตูให้ “ผีแดง” เอาชนะ Arsenal 2-0 ในเกมปรี-ซีซั่นที่สหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
“Harry แสดงความยินดีกับผมด้วยที่ได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมคนใหม่ ผมเองก็เข้าใจด้วยว่าเขาไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในขณะนี้ มันอาจจะเป็นช่วงเวลายากลำบากสำหรับเขา แต่เขาก็ยังร่วมยินดีไปกับผมด้วย” Fernandes กล่าว ต่อจากนี้เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของกองกลางชาวโปรตุกีส ว่าจะสามารถพา United คว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ เหมือนอดีตกัปตันทีมหลายๆ คนหรือไม่
Wayne Rooney (2014-2017)
Nemanja Vidic เป็นกัปตันทีมคนสุดท้ายของ Manchester United ที่ช่วยพาทีม คว้าแชมป์ Premier League เมื่อสิบปีที่แล้วหรือเมื่อปี 2013 โดยปราการหลังชาวเซอร์เบียย้ายไปร่วมทีม Inter Milan และไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งกัปตันทีมคนใหม่เท่ากับ Wayne Rooney อีกแล้ว
Rooney ย้ายมาอยู่กับ Man Utd มาตั้งแต่ปี 2004 และยังทำสถิติยิงประตูไปทั้งหมด 253 ประตู คว้าแชมป์ Premier League 5 สมัย แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจะสวมปลอกแขนกัปตันทีม ในยุคที่มี Louis van Gaal เป็นผู้จัดการทีม
ในตำแหน่งกัปตันทีม Rooney เขาพาสโมสรคว้าแชมป์ FA Cup ในปี 2016 หลังจากนั้นยังได้แชมป์ League Cup และ Europa League ในยุคของ Jose Mourinho
Michael Carrick (2017-2018)
หลังจาก Rooney อำลาตำแหน่งกัปตันทีม นักเตะชาวอังกฤษที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งแทนก็คือ Michael Carrick มิดฟิลด์เชิงสูงของทีม โดย Carrick ย้ายมาอยู่กับ Manchester United เมื่อปี 2006 และหลังจากนั้นนานกว่าทศวรรษเขาจึงได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีมในช่วงฤดูร้อนของปี 2017
อย่างไรก็ตาม Carrick ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมเป็นช่วงสั้นๆ ในตอนแรก เพราะถึงเดือน พ.ย. ของปีนั้น เขาเข้ารับการรักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกติ หลังจากมีอาการเวียนศีรษะระหว่างการฝึกซ้อม เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว เขากลับมาเป็นตัวหลักของทีมอย่างยาวนาน ทำหน้าที่กัปตันทีมได้ดีพอๆ กับผลงานในสนาม และเมื่อตัดสินใจแขวนสตั๊ดก็ยังทำงานรับใช้ “ผีแดง” ในฐานะโค้ชของสโมสร และมีสถิติลงเล่นทั้งหมด 464 นัด
Antonio Valencia (2018-19)
ในตอนที่ Michael Carrick ประกาศแขวนสตั๊ดนั้น Jose Mourinho แถลงว่าได้แต่งตั้ง Antonio Valencia ให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ และแบ็กขวาชาวเอกวาดอร์สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้เกิดขึ้นด้วยการเป็นนักเตะคนแรกที่เป็นกัปตันทีมที่ไม่ใช่มาจากนักเตะในยุโรปด้วยกัน หากแต่ก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกเมื่อ Valencia ได้รับบาดเจ็บทำให้ฤดูกาลแรกที่ได้รับตำแหน่งกัปตันทีมเขาได้ลงเล่นไปเพียง 9 นัดเท่านั้น
Valencia ซึ่งขยับจากตำแหน่งแบ็กขวามาเป็นปีกขวาในเวลาต่อมา รับใช้ Man Utd มาตั้งแต่ปี 2019 และได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศศึก Europa League ในปี 2017 แต่ตลอดหนึ่งปีที่เป็นกัปตันทีมไม่เคยพาทีมสัมผัสแชมป์รายการใดเลย
เขาย้ายออกจากทีมไปในปี 2019 หลังจากลงเล่นให้สโมสรรวมทั้งหมด 339 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของนักเตะจากอเมริกาใต้ในการลงเล่นให้ “ผีแดง” โดยหลังจากอำลาทีมเขาย้ายกลับไปเอกวาดอร์และลงเล่นให้ LDU Quito จากนั้นยังมีโอกาสลงเล่น Queretaro ของเม็กซิโก ก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2021
Ashley Young (2019-2020)
ตำแหน่งกัปตันทีมกลับมาเป็นนักเตะอังกฤษอีกครั้งโดย Ashley Young เป็นนักเตะที่ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
เขาย้ายมาอยู่กับ United ตั้งแต่ปี 2011 และได้เป็นกัปตันทีมเป็นครั้งแรกในปี 2017 และอีกสองปีต่อมาก็ได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีมอย่างถาวร อย่างไรก็ตามเขาได้ตำแหน่งไม่นานก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ Vidic ในทีม Inter Milan ในเดือน ม.ค.2020
Harry Maguire (2020-2023)
ถ้าเทียบกับนักเตะคนอื่นๆ หลายคน Maguire ได้เป็นกัปตันทีมเร็วมาก เพราะ Ole Gunnar Solksjaer เลือกเขาให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมหลังจากย้ายมาจาก Leicester City ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ในฤดูกาลแรก เขาได้ลงเล่นให้ทีม ทุกนาทีในเกม Premier League หากแต่เขากลายเป็นนักเตะที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักหน่วง กลายเป็นแพะรับบาปในทีมเมื่อ Man Utd ไล่ตามหลังทีมร่วมเมืองอย่าง Man City ตลอดเวลา
แต่เมื่อ Solksjaer ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม สถานการณ์ของเขาเริ่มแย่ลงตามลำดับ จนการมาถึงของ Erik ten Hag ทำให้ต้องพยายามอย่างหนักในการรักษาตำแหน่งตัวจริงไว้ และกลายเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ และหลังเกมพ่าย “เรือใบสีฟ้า” ในนัดชิงชนะเลิศ FA Cup เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาเขาได้รับการบอกกล่าวว่าจะไม่ได้เป็นกัปตันทีม และเสียตำแหน่งนี้ให้กับ Bruno Fernandes