ตลาดซื้อขายนักเตะ Premier League จ่ายหนักเพื่อซื้อความสำเร็จ เมื่อ Premier League ฤดูกาล 2023-24 ผ่านการลงเล่นไปเป็นนัดที่ 4 ของฤดูกาลแล้ว ถือว่ามีความคึกคักพอตัว และที่หวือหวาไม่เบาก็คือ ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่เพิ่งปิดไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ยอดเงินซื้อขายนักเตะในฤดูกาลนี้คิดเป็นเม็ดเงินมูลค่ารวม 2.36 พันล้านปอนด์ (ราว 105,029 ล้านบาท)ซึ่งมากกว่าฤดูกาลที่แล้ว 440 ล้านปอนด์ (19,581 ล้านบาท) โดยฤดูกาล 2022-23 ใช้จ่ายเงินซื้อนักเตะใหม่ไปทั้งหมด 1.92 พันล้านปอนด์ (85,447 ล้านบาท)
และอาจจะมีโอกาสทำลายสถิติการซื้อนักเตะรวมกันสูงที่สุด ถ้านับรวมกับการเสริมทีมตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ด้วย โดยสถิติสูงสุดในการซื้อนักเตะช่วงต้นฤดูกาลกับช่วงเดือน ม.ค. อยู่ที่ 2.73 พันล้านปอนด์(121,495 ล้านบาท) เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
นักเตะค่าตัวแพง Premier League 2022-2023
ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือการจับจ่ายเงินในการซื้อนักเตะในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะมีจำนวนทั้งสิ้น 255 ล้านปอนด์ ในขณะที่ฤดูกาลที่แล้วมียอดซื้อขายในวันเดดไลน์อยู่ที่ 120 ล้านปอนด์เท่านั้น
มีสถิติน่าสนใจ เกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะ Premier League ฤดูกาลนี้ มีการใช้จ่ายเงินคิด 48 % มากกว่าการใช้จ่ายของ 5 ลีกใหญ่ยุโรป เหนือกว่า La Liga, Serie A, Bundesliga และ Ligue 1 สโมสรใน Premier League ได้รับเงินในการขายนักเตะ 550 ล้านปอนด์ ให้กับสโมสรในลีกอื่นของยุโรป ซึ่งมากกว่าฤดูกาลของปี 2022 ที่มีการจ่ายเงินเพียง 210 ล้านปอนด์
Deloitte’s Sports Business Group บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำของโลกรายงานว่า การใช้จ่ายเงินซื้อนักเตะของ Premier League ในช่วงสองฤดูกาลติดต่อกันมีเม็ดเงินพุ่งขึ้นสูงมาก อันเป็นผลมาจากการสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 และส่วนมากเกิดขึ้นในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ นั่นย่อมสะท้อนให้เห็นว่าฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษมีการแข่งขันกันสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Matheus Nunes
ตลาดซื้อขายนักเตะ ตัวความหวังของแต่ละทีมใน Premier League
ดีลใหญ่สุดในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะก็คือการลงทุนของ “แชมป์เก่า” Manchester City ที่จ่ายเงิน 55 ล้านปอนด์คว้าตัว Matheus Nunes มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสของ Wolves มาร่วมทีม ในขณะที่ปล่อยตัว Cole Palmer ให้กับ Chelsea ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์
โดยนอกจาก ดีลซื้อขายนักเตะในวันสุดท้ายนั้น Man City ยังได้นักเตะเสริมแกร่งอีกหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงิน 77 ล้านปอนด์ ซื้อ Josko Gvardiol ปราการหลังของ RB Leipzig ได้ Jeremy Doku จาก Rennes ด้วยค่าตัว 55.4 ล้านปอนด์ รวมไปถึงการได้ Mateo Kovacic มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย ของ Chelsea มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์
Rasmus Hojlund
ในขณะที่ทีมร่วมเมืองของ “เรือใบสีฟ้า” อย่าง Manchester United จ่ายเงิน 4.5 ล้านปอนด์คว้าตัว Altay Bayindir ผู้รักษาประตูของ Fenerbahce มาร่วมทีม นอกจากนั้นยังยืมตัว Sofyan Amrabat มาจาก Fiorentina ยืมตัว Sergio Reguilon แบ็กซ้ายของ Spurs รวมไปถึง Jonny Evans ปราการหลังตัวเก๋ามาร่วมทีมหลังจากเป็นนักเตะฟรี เอเยนต์
ก่อนหน้านั้นนักเตะที่ “ผีแดง” ได้ตัวมาร่วมทีมก่อนแล้วก็คือ Rasmus Hojlund กองหน้าทีมชาติเดนมาร์กมาจาก Atalanta ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์
Ibrahim Sangare
อีกสโมสรหนึ่ง ที่มีการใช้จ่ายซื้อนักเตะคึกคักเหมือนกับฤดูกาลที่ผ่านมาคือ Nottingham Forest โดยคว้านักเตะใหม่มาร่วมทีมถึง 7 คน ซึ่งรวมถึงได้ Ibrahim Sangare มิดฟิลด์คนขยันมาจาก PSV Eindhoven แถมยังได้ Callum Hudson-Odoi ปีกของ Chelsea และได้กองกลางมาอีกคนคือ Nicolas Dominguez จาก Bologna
แผงมิดฟิลด์ใหม่ Liverpool
ส่วน Liverpool ในการเสริมนักเตะเน้นหนักไปที่แผงมิดฟิลด์ล้วนๆ ได้ Dominik Szoboszlai จาก RB Leipzig 60 ล้านปอนด์, Alexis Mac Allister จาก Brighton 35 ล้านปอนด์, Wataru Endo จาก Stuttgart
และในวันสุดท้ายก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลงก็ได้ Ryan Gravenberch กองกลางชาวดัตช์ของ Bayern Munich ด้วยค่าตัว 34.3 ล้านปอนด์
Moises Caicedo, Romeo Lavia
สำหรับสโมสรที่จ่ายดุเหมือนอย่างเคย ก็คงไม่พ้น Chelsea ที่มี Todd Boehly มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเป็นเจ้าของทีม โดยที่ลงทุนราคาแพงทีสุดก็คือการจ่ายเงิน 115 ล้านปอนด์คว้าตัว Moises Caicedo มิดฟิลด์ทีมชาติเอกวาดอร์ ของ Brighton
นอกจากนั้นก็ยังมีนักเตะใหม่เรียงแถวเข้ามาอย่างมากมาย ไล่มาตั้งแต่ Romeo Lavia, Nicolas Jackson และ Cole Palmer รวมทั้ง Christopher Nkunku กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสมาจาก RB Leipzig ด้วยค่าตัว 53 ล้านปอนด์ แต่เป็นดีลที่ทำความตกลงกันมาตั้งแต่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แถมย้ายมายังเจออาการบาดเจ็บส่อเค้าพักยาวอีกต่างหาก
รวมแล้ว “สิงโตน้ำเงินคราม” จ่ายเงินไปถึง 380 ล้านปอนด์ในการซื้อนักเตะมาร่วมทีม เป็นสถิติการซื้อนักเตะที่สูงสุดของสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปในตลาดซื้อขายในช่วงซัมเมอร์ ทำลายสถิติเดิมที่ Real Madrid ทำไว้
Sandro Tonali
อีกทีมที่เสริมทีมได้ไม่เลวก็คือ Newcastle United โดยเป็นการเตรียมขุมกำลังให้แข็งแกร่งในการลุยศึก Champions League โดยได้นักเตะพลังหนุ่มที่น่าจับตาหลายคนไม่ว่าจะเป็น Sandro Tonali มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี Harvey Barnes ปีกซ้ายชาวอังกฤษ และยังลงทุนในการเสริมดาวรุ่งด้วยการเซ็นสัญญาคว้าตัว Lewis Hall มาจาก Chelsea
Arsenal รองแชมป์เก่า เป็นทีมที่จ่ายหนักเป้าหมายก็คือ การลุ้นแชมป์ลีก แม้ว่าจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ก็เสริมทีมอย่างหนักหน่วงได้ Jurrien Timber ปราการหลังชาวดัตช์ของ Ajax ส่วนแดนกลางได้ Kai Havertz จาก Chelsea และ Declan Rice จาก West Ham ขณะเดียวกันก็ปล่อยมิสเตอร์ฮาร์ดแมนอย่าง Granit Xhaka
อีกไม่นานคงได้รู้ว่ากันการลงทุนในช่วงเปิดฤดูกาลสโมสรไหนจะแป้กและสโมสรไหนจะแป้กกันบ้าง