You are currently viewing กุนซือ“เชลซี”เปิดสถิติยุค“โบลี่ย์” 1 ปี เปลี่ยน 5 คน ก่อนถึง พอช!

กุนซือ“เชลซี”เปิดสถิติยุค“โบลี่ย์” 1 ปี เปลี่ยน 5 คน ก่อนถึง พอช!


เรื่องการเปลี่ยนแปลงตัว กุนซือ ในแวดวงกีฬาฟุตบอลเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในลีกใหญ่ๆที่ความอดทนของบอร์ดบริหาร มักจะไม่ให้โอกาสความผิดพลาดมากนัก และต้องการความสำเร็จแบบรวดเร็วที่สุด

และแน่นอนว่าความคาดหวังของทีมใหญ่อย่าง เชลซี ที่เปลี่ยนผ่านยุคความสำเร็จที่สุดของ โรมัน อบราโมวิช มาเป็น ท็อดด์ โบห์ลี กลายเป็นสโมสรเจ้าบุญทุ่มรายใหม่ทันที ภายใต้การนำทัพของกลุ่มทุนเงินหนาจากสหรัฐฯ

ทว่าการบริหารแบบ “อเมริกันเกมส์สไตล์” ที่มักจะใช้เวลาการสร้างทีม กลับตรงข้ามกับ โบห์ลี ที่ไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้น เห็นได้จากการใช้เงินที่สูงถึง 600 ล้านปอนด์ ในการซื้อนักเตะ ในระยะเวลาแค่เพียงปีเดียว แต่กลับกันพวกเขากำลังจะเปลี่ยน กุนซือ คนที่ 5 ในฤดูกาลแรก

เพราะเหตุใดถึงมีการเปลี่ยนแปลงแบบบ้าคลั่ง กุนซือทำทีมไม่ดี? เจ้าของทีมใจร้อน? เราจะไปหาคำตอบกัน

โธมัส ทูเคิ่ล

คนแรก : โธมัส ทูเคิ่ล

ต้องถูกพูดถึงมากหน่อย เพราะนี้คือ กุนซือ 2 ยุค ตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช เจอปัญหาจนไม่สามารถพา เชลซี ไปต่อได้ ทูเคิ่ล คือกุนซือคนสุดท้ายที่อยู่ข้างกาย และพาทีมประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลยุโรปยุค 10 ปีหลังสุด 

  • แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก : 2020-21
  • แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ : 2021 
  • แชมป์สโมสรโลก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ : 2021
  • รองแชมป์เอฟเอ คัพ : 2020-21, 2021-22
  • รองแชมป์คาราบาว คัพ (ลีกคัพ) : 2021-22

นี่คือความยิ่งใหญ่ แม้จะไม่เข้าใกล้คำว่าแชมป์ลีก แต่พาทีมเป็นแชมป์ยุโรปครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ต่อจาก โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เมื่อปี 2012 และทิศทางของตัวเขากำลังจะสร้าง เชลซี ให้แข็งแกร่งแบบยั่งยืน แต่ต้องอกหักแบบสายฟ้าแลบเสียก่อน

การเข้ามาของ ท็อดด์ โบห์ลี ให้เวลา ทูเคิ่ล แค่เพียง 6 เกมเท่านั้น ในฤดูกาล 2022-23 ก่อนจะตัดสินใจไล่กุนซือชาวเยอรมัน แบบช็อกแฟนบอล เพราะทำผลงาน เก็บได้เพียง 10 คะแนน จาก 6 เกม ตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูง 5 คะแนน

ไม่เพียงเท่านั้น การประเดิมพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก แต่ใครจะคิดว่าการตัดสินใจครั้งนั้น จะเป็นหายานะครั้งรุนแรงที่สุดของสโมสร เพียงเพราะความอดทนที่ไม่มากพอจากเจ้าของทีมมือใหม่ แต่ ทูเคิ่ล ก็ได้รับเงินว่างงานไปมากถึง 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 550 ล้านบาท)

เกรแฮม พอตเตอร์

กุนซือ คนที่ 2 : เกรแฮม พอตเตอร์

นี่คือกุนซือหนุ่มมือดีจากทีมเล็กๆอย่าง ไบรท์ตัน ที่สร้างทีมขึ้นมาเขย่าขวัญยักษ์ใหญ่ในลีกแบบแข็งแกร่ง แต่การใช้เงินในครั้งนี้ต้องทุ่มสูงถึง 21.5 ล้านปอนด์ (903 ล้านบาท) เพราะสัญญาของเขากับทีมเก่ายังเหลืออยู่

ทุกคนในสโมสร แฟนบอล บอร์ดบริหาร นักเตะ คาดหวังกับกุนซือรายนี้มาก เพราะเพิ่งช็อกกับเหตุการณ์ปลดยอดกุนซืออย่าง โธมัส ทูเคิ่ล แถมต้องใช้เงินมากถึงเกือบพันล้านบาท และการคัดสรรครั้งนี้มาจาก โบห์ลี 100% ช่วงแรกคือช่วงฮันนี่มูน 

  • คุมทีม 9 
  • ชนะ 6 
  • เสมอ 3 
  • แพ้ 0
  • ยิง 15
  • เสีย 4 

แต่หลังจากนั้น พอตเตอร์ คือกุนซือยอดแย่ตลอดกาลของ เชลซี ชนะแค่ 7 เสมอ 7 แพ้ 8 จาก 22 เกมในพรีเมียร์ ลีก นี่คือผลงานแย่สุดของประวัติสโมสร เพราะมีค่าเฉลี่ยเก็บแต้มต่อเกมเพียงแค่ 1.27 คะแนน

นี่คือการเดินเกมที่ผิดพลาด เพราะเห็นได้ชัดว่า พอตเตอร์ เป็นโค้ชที่เก่งกาจ แต่ประสบการณ์ยังไม่ถึงขั้นในการคุมทัพทีมใหญ่ๆ และแบกรับความกดดันสูงกับทีมอย่าง เชลซี สุดท้าย โบห์ลี ต้องกัดฟันอีกรอบ ปลดกุนซือที่ตัวเองเลือกมา พร้อมกับค่าชดเชยสูงถึง 13 ล้านปอนด์ (550 ล้านบาท)

บรูโน่ ซัลตอร์

ขัดตาทัพ 1 : บรูโน่ ซัลตอร์

แฟน เชลซี มองว่าความเจ็บปวดในฤดูกาลนี้ เพียงพอแล้ว ทีมไม่ควรจะหาทำดึงกุนซือคนไหนเข้ามาลองทีมอีก เอาให้สุดแล้วค่อยไปคัดเกรดหัวกะทิในฤดูกาลหน้ามาดีกว่า นั่นทำให้ บรูโน่ ซัลตอร์ 1 ในผู้ช่วยของ เกรแฮม พอตเตอร์ จะคุมทีมจนจบฤดูกาล

ทว่าความคาดหวังนั้นสิ้นสุดลงเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังเจ้าตัวได้ลงคุมทีม 1 เกม ในนัดที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 ก่อนจะแยกทางกันเพราะกุนซือขัดตาทัพคนใหม่ ที่หน้าเก่า กำลังจะเข้ามาสานงานต่อ

แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ขัดตาทัพ 2 : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ตำนานนักเตะ ที่เคยพันตัวมาเป็นกุนซือของทีม แต่ผลงานไม่สวยหรู จนโดนปลดจากตำแหน่ง ได้รับโอกาสเป็นกุนซือขัดตาทัพคนที่ 2 ในฤดูกาลนี้ เป้าหมายในตอนนั้นคือการพาทีมไปให้ได้ไกลที่สุดในรายการเดียวที่เหลือลุ้นแชมป์อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่สุดท้ายก็พ่าย เรอัล มาดริด ทั้งไปและกลับ ร่วงตกรอบ 8 ทีม ตามคาด

ไม่เท่านั้นผลงานในลีก 6 เกมของเจ้าตัว แพ้ไปถึง 4 นัด ชนะได้แค่เกมเดียวเท่านั้น จากที่จะให้เข้ามาเพื่อประคับประคอง สุดท้ายต้องลุ้นหนีตกชั้น แม้ในฤดูกาลนี้จะรอดตัวแล้ว แต่การลุ้นกลับมาเป็นกุนซือถาวรถูกปิดประตูลงไปทันที กับผลงาน 2 ครั้งที่คุมทีม 22 นัด ชนะ 2 แพ้ 17 เสมอ 3

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน

ว่าที่ กุนซือ คนใหม่ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน

แม้ทุกคนคิดว่าตำแหน่งกุนซือของ เชลซี คงจะหยุดแค่ แลมพาร์ด ในฤดูกาลนี้ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะล่าสุดทุกสื่อรายงานไปในทิศทางเดียวกัน โปเช็ตติโน เตรียมกลับมารับงานในกรุงลอนดอน แต่เปลี่ยนจากสีขาว สเปอร์ส ไปอยู่ฝั่งสีน้ำเงิน เชลซี

สุดท้ายแล้วการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 5 ของทีมภายในระยะเวลา 1 ปี จะถึงจุดจบและลงตัวแล้วหรือยัง หากไม่ เชลซี จะยังวนลูปนรกเปลี่ยนแปลงไม่จบสิ้น และความสำเร็จจะห่างไกลพวกเขาไปเรื่อยๆ

ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : โคตรบ้าบอล
Facebook : โคตรบ้าบอล
Instagram : kodbaball.official
YouTube : โคตรบ้าบอล

ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก : ufabet