ศึกลูกหนัง “เอเชียน คัพ 2023 หรือ AFC Asian Cup 2023” ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพนั้น มีอะไรให้พูดถึงมากมาย โดยเฉพาะการที่ทีมชาติไทย ได้ผ่านเข้ารอบเล่นในรอบสุดท้าย
โปรแกรมแข่งขัน เอเชียน คัพ 2023 ดังต่อไปนี้
16 มกราคม 2567 พบ คีร์กีซสถาน เวลา 21.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ อับดุลลาห์ บิน คอลิฟา สเตเดียม
21 มกราคม 2567 พบ โอมาน เวลา 21.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ อับดุลลาห์ บิน คอลิฟา สเตเดียม
25 มกราคม 2567 พบ ซาอุดีอาระเบีย เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม
ทั้งนี้ ช่อง T Sports 7 และ PPTV HD 36 จะรับหน้าเสื่อถ่ายทอดสดทุกนัด และหากผ่านเข้ารอบ ก็จะถ่ายทอดสดทุกเกมที่ทีมชาติไทยได้ลงเตะ
ประเด็น “ดราม่า” เกี่ยวกับทีมชาติไทย ก็คงไม่พ้นกับกรณีของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ปฎิเสธที่จะเข้าร่วมทีมชาติไทยสู้ศึก เอเชียน คัพ ในครั้งนี้ เพราะยังไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ อุราวะ เรดส์ ไดมอนด์ส ต้นสังกัดจากเจลีก ญี่ปุ่น ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจ เดินทางไปปรีซีซั่นกับทีม เพื่อแสดงผลงานต่อหน้าโค้ชใหม่อย่าง แพร์ มาเธียส ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ และในที่สุดก็ได้ต่อสัญญาใหม่ด้วยการยืมตัวจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกไปอีก 1 ปี และแน่นอนว่าการลงทุนครั้งนี้ของ “เจ้าบุ๊ค” น่าจะคุ้มค่า เพราะจะได้โชว์ฝีเท้าในศึกเจลีก 2024 ต่อไป
เอกนิษฐ์ผละจากการเล่นให้ “ช้างศึก” แล้วมีร่วมซ้อมปรีซีซั่นกับทีม อุราวะ เรดส์ ไดมอนส์ เพียง 3 วัน แต่ก็ถือว่ารักษามาตรฐานการเล่นไว้ได้
โดยเมื่อ เมื่อช่วงวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา สโมสรอุราวะ เรดส์ ไดมอนส์ ได้ออกแถลงการณ์ยืนยัน การต่อสัญญากับกองกลางทีมชาติไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการยืมตัวอีก 1 ฤดูกาล (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2024) ซึ่งถือเป็นสัญญาฉบับที่ 2 หลังจากฉบับแรกยืมตัว 6 เดือน ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วจากเมืองทอง ยูไนเต็ด
“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากครับกับการได้ต่อสัญญายืมตัวออกไป เพราะจะเป็นการลงเล่นฤดูกาลเต็ม ๆ เป็นครั้งแรก ถือเป็นความท้าทายใหม่ และพร้อมทุ่มเททุกอย่างเต็มที่ให้อุราวะ และหวังว่าจะคว้าแชมป์ร่วมกับทีมให้ได้ด้วย”
เอกนิษฐ์ กล่าวให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้แนวรุกวัย 24 ปี ทำผลงานช่วงครึ่งฤดูกาลหลังปี 2023 ในสีเสื้ออุราวะ เรดส์ ด้วยการลงเล่นไปทั้งหมด 11 นัด แบ่งเป็น เจลีก 5 นัด (185 นาที), ลูวาน คัพ 2 นัด (24 นาที) และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 4 นัด (164 นาที) โดยยิง 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ในเวทีสโมสรเอเชีย ก่อนจะได้รับสัญญาใหม่ อยู่ค้าแข้งในถิ่นไซตามะ สเตเดียม 2002 ต่อไปอีก 1 ปี
เมื่อเคลียร์ปัญหานี้ได้แล้ว ต่อไปก็คือต้องไปดูผลงานของ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นจะออกมาเป็นเช่นไร แม้จะไม่มีเอกนิษฐ์ แต่ก็พอเดาได้ว่าการจัดตัวของทีมชาติไทยในศึก เอเชียน คัพ 2023 ได้
คาดการณ์ 11 ตัวจริง ทีมชาติไทย สู้ศึก AFC Asian Cup 2023
ผู้รักษาประตู – ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
กองหลัง – นิโคลาส มิคเคลสัน, สุพรรณ ทองสงค์, เอเลียส ดอเลาะ และ ธีราทร บุญมาทัน
มิดฟิลด์ – กฤษดา กาแมน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, สุภโชค สารชาติ
ส่วนกองหน้าตัวเป้า น่าจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด
แม้จะไม่ใช่ชุดที่สมบูรณ์ที่สุด แต่เป็นทีมพลังหนุ่มที่น่าจะบดสู้กับทีมร่วมสายได้สนุก แถมเชื่อว่าแท็คติกที่ อิชิอิ ก็น่าจะเหมาะสมกับผู้เล่นที่มีอยู่ได้เป็นอย่างดี จริงอยู่ที่ว่าการขาดผู้เล่นตัวเก๋าหลายคนอาจทำให้ทีมไม่แกร่งทั่วแผ่นเหมือนเคย แต่ก็อาจจะชดเชยด้วยการเล่นที่น่าจะสอดคล้อง เป็นทีมเวิร์ก และเมื่อไปในฐานะทีมเป็นรองอาจจะสามารถเล่นเกม “ตีหัวเข้าบ้าน” ได้ ซึ่งเหมาะกับสภาพทีมในขณะนี้ มากกว่าจะเปิดเกมบุกแลกหมัดกับทีมร่วมสาย โดยที่จะหนักหน่อยก็คือการเจอกับซาอุดิอาระเบียที่เป็นเต็ง 1 ในสาย ในขณะที่โอมานก็จะประมาทไม่ได้เช่นกัน
“ช้างศึก” ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมาก น่าจะลุ้นกันไปแบบเกมต่อเกม จะได้ไม่กดดันมากนัก
ต้องยอมรับว่า เอเชียน คัพ 2023 เป็นการช่วงชิงความเป็นหนึ่งเดียวของทีมจากเอเชีย แต่ถ้าดูจากบรรดาระดับ “บิ๊กเนม” ที่เข้าร่วมแข่งในครั้งนี้ แทบจะเหมือนศึก “มินิ เวิลด์ คัพ” กันเลยทีเดียว อย่างทีมเต็งอย่างญี่ปุ่น มีนักเตะที่เล่นใน Premier League อยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็น Wataru Endo, Kaoru Mitoma, Takehiro Tomiyasu หรือเกาหลีใต้ ก็มีทั้ง Son Heung-min, Hwang Hee-chan
และแน่นอนว่า แฟนบอลคงอยากจะเห็นคู่ชิงชนะเลิศ เป็นการเจอกันระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นนั่นเอง แต่ยังมีอีก 3 ทีมที่อาจสามารถสอดแทรกขึ้นมา ได้แก่ อิหร่าน, ออสเตรเลีย และ ซาอุดิอาระเบีย เป็นศึก Asian Cup 2023 ที่คาดเดายาก และมาตรฐานการเล่นยกระดับขึ้นมา อยู่ในระดับโลกกันแล้ว น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : ข่าวพรีเมียร์ลีก
Facebook : โคตรบ้าบอล
Instagram : kodbaball.official