You are currently viewing แกรม ซูเนสส์ ร่วมเสียใจ ป็อกบา โดนแบน ยาว 4 ปี

แกรม ซูเนสส์ ร่วมเสียใจ ป็อกบา โดนแบน ยาว 4 ปี

เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว สถาบันตรวจโด๊ปแห่งอิตาลี (Nado) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าได้ลงโทษ ป็อกบา มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสของ Juventus โดนแบน เป็นเวลา 4 ปี อันเป็นผลสืบเนื่องจากการตรวจสารกระตุ้นพบสาร DHEA (dehydroepiandrosterone) อยู่ในร่างกาย

ทั้งนี้สาร DHEA ถือว่าเป็นสารกระตุ้นต้องห้ามในวงการกีฬา เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเพิ่มมากขึ้น โดยเทสโทสเทอโรน เป็นฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งจะส่งผลให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงมากกว่าปกติ โดยการตรวจหาสารกระตุ้นกรณีดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล และหลังจากตรวจพบแล้ว ก็ได้มีการตรวจสารกระตุ้นซ้ำอีกครั้ง ก็ยังพบว่ามีสารกระตุ้นอยู่ในร่างกายเหมือนเดิม อันเป็นผลให้ Nado ยืนยันว่าได้ตัดสินลงโทษแบน มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส เป็นเวลา 4 ปี

อย่างไรก็ตาม ป็อกบา ก็พยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอย่างแน่นอน

“หลังจากผมได้รับการทราบการตัดสินของสถาบันตรวจโด๊ปแห่งอิตาลี ผมก็เกิดความรู้สึกเลยว่า คำตัดสินที่ออกมาไม่ถูกต้อง”

มิดฟิลด์วัย 30 ปีกล่าว

“ผมรู้สึกเศร้าใจ ตกใจ ผสมผสานไปกับอาการอกหัก เหตุเป็นเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพยายามสร้างมาในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ต้องถูกพรากไปเพราะผลการตัดสินในครั้งนี้ และขอยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่รู้ และไม่มีความจงใจที่จะกินอาหารเสริมใด ๆ ที่ละเมิดกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม”

ป็อกบา กล่าวย้ำ

“ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ผมไม่มีทางหรอกที่จะใช้สารกระตุ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่เพียงเท่านั้น ผมยังไม่เคยเหยียดหยามหรือโกงเพื่อนร่วมทีมชาติแต่อย่างใด”

ป็อกบา จะใช้การสู้ต่อด้วยการยื่นเรื่องต่อศาลกีฬาโลก ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลายาวนานอีกหลายปี และระหว่างนั้นต้นสังกัดอย่าง Juventus อาจจะยกเลิกสัญญากับเขาก็เป็นได้ แต่ที่แน่ ๆ การ โดนแบน ยาว 4 ปี หมายความว่าอาจทำให้เขาหมดอนาคตในวงการลูกหนังโลกแน่นอน เพราะพ้นโทษแบนเขาก็จะมีอายุ 34 ปีเข้าไปแล้ว

คดี “โด๊ปยา” ที่ ป็อกบา โดนแบน นั้น มีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

ในปี 2022 Bobby Green นักมวย UFC โดนหน่วยต่อต้านการใช้สารกระตุ้นของสหรัฐสั่งแบน 6 เดือน หลังจากตรวจพบสารกระตุ้น DHEA อย่าได้แปลกใจว่าทำไมเขา โดนแบน เพียงแค่ครึ่งปีเนื่องจากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และพบสารกระตุ้นในตัวเองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น Green บอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง DHEA ว่าเป็นสารต้องห้าม เพียงแต่ดูวีดิโอโฆษณาจาก Youtube แล้วซื้ออาหารเสริมตัวนี้มากินเอง โดยภรรยาของเขาซื้อมาจากในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง

นอกจากนั้นในปี 2018 Joao Pedro กองหน้าแซมบ้าของ Cagliari ก็ โดนแบน 4 ปี หลังจากผลตรวจเป็นบวก จากการใช้ขับปัสสาวะ แต่ต่อมา Pedro ถูกลดโทษลงเหลือแค่ 6 เดือน หลังจากยืนยันว่าเขาบริโภคสารอาหารที่ปนเปื้อนไปโดยไม่รู้ตัว

แต่สำหรับกรณีของ Paul Pogba อาจจะแตกต่างไปจากทุกกรณี เพราะเขาไม่ยอมรับว่าได้ทำผิด แถมยังเป็นนักเตะระดับบิ๊กเนมอีกต่างหาก

ซูเนสส์ จัดหนักวิจารณ์ ป็อกบา

ซูเนสส์ จัดหนักวิจารณ์ ป็อกบา

นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในอิตาลี มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ได้ลงเล่นไปทั้งหมดเพียงแค่ 108 นาทีเท่านั้นในเกมลีก โดยเป็นการลงเล่นใน Europa League 42 นาที และเป็นการลงเล่นใน Italian Cup ฤดูกาล 2022-23 อีก 11 นาที

หากแต่คนที่มองขาดว่า Pogba น่าจะจบเส้นทางลูกหนังอย่างไม่สวยนัก เพราะพฤติกรรมส่วนตัวที่ย่ำแย่ ไร้ระเบียบวินัยก็คือ Graeme Souness อดีตผู้เล่นและผู้จัดการทีม Liverpool

“ผมเป็นคนหนึ่งที่วิจารณ์ Paul Pogba มาตลอด และบางคนก็สนุกสนานกับการวิจารณ์แบบตรงไปตรงมาของผมด้วยสิ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกเสียใจด้วยเหมือนกันที่เขาต้องโดนโทษแบน 4 ปี”

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์กล่าว

ซูเนสส์ มองว่ามิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นกองกลางที่มีเทคนิคการเล่นที่ยอดเยี่ยม และมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงมาก และในช่วงท็อปฟอร์ม ก็ยังจังหวะสอดขึ้นไปทำประตูเองได้ดีอีกด้วย จะเรียกว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในขณะนี้ก็ไม่ผิดนัก แต่สิ่งที่ทำให้อดีตกัปตันทีม “หงส์แดง” หงุดหงิดก็คือพฤติกรรมส่วนตัว โดยเฉพาะยามอยู่นอกสนามมากกว่า

“สิ่งที่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีปัญหาก็คือ การเล่นที่ไม่มีสมาธิ ไม่มีความพยายาม ความมุ่งมั่นในการเล่นมากเพียงพอ และพอผมเห็นนักเตะฝีเท้ายอดเยี่ยมสักคนมีความคิดเช่นนั้นอยู่ ในสมองก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ เมื่อคุณมีคุณสมบัติของนักเตะระดับสุดยอดอย่างนั้น สิ่งที่คุณควรทำก็คือ แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้เต็มที่ เขาควรทำอย่างนั้นก็เพราะอีกไม่นานเขาก็ต้องลงจากวงการลูกหนังโลกไปแล้ว”

ซูเนสส์ บอกว่า ป็อกบา ทำได้น่าผิดหวังที่สุดก็คือ หลังจากช่วยให้ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ World Cup 2018 ที่ประเทศฝรั่งเศส ก็เหมือนว่าสิ้นความกระหายชัยชนะ นั่งพักอยู่บนเก้าอี้นวม และไม่ได้มีอะไรที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในการเล่นเลย

“ผมพูดต่อสาธารณชนบ่อยมากในเรื่องเหล่านี้ และถึงตอนนี้ยืนยันได้ว่า ผมได้พูดสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เขามีศักยภาพที่จะไปได้อีก แต่เขาก็เลือกที่จะหยุดมันเสีย มันทำให้ผมนึกถึงตอนเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีม และจะคอยจ้ำจี้จ้ำไชนักเตะบางคนอยู่เสมอ และคนเหล่านั้นก็จะอารมณ์เสีย พร่ำบ่นว่า ทำไมจะต้องโดนรังแกตลอดเวลา แต่เนื้อแท้แล้วที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะหวังดี หากผมเลือกที่จะหยุดพูดถึงนักเตะเหล่านั้น หยุดวิจารณ์ ก็หมายความว่าผมยอมแพ้กับนักเตะคนนั้นไปแล้ว”

Paul Pogba ฟังแล้วอาจจะเจ็บจี๊ดแต่ก็พอมีมูลความจริงอยู่เหมือนกัน


ติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่
Website : ข่าวพรีเมียร์ลีก
Facebook : โคตรบ้าบอล
Instagram : kodbaball.official