You are currently viewing Premier League 2023-2024 เจาะทัพยักษ์ใหญ่ก่อนเปิดฤดูกาล

Premier League 2023-2024 เจาะทัพยักษ์ใหญ่ก่อนเปิดฤดูกาล


Premier League ฤดูกาล 2023-24 ก็จะเปิดฉากขึ้นแล้ว อีกไม่กี่วัน บรรดาสโมสรใหญ่ๆ เดินทางตระเวนทัวร์เพื่อลงเตะปรี-ซีซั่นกันอย่างคึกคัก และต้องเตรียมกลับมาฝึกซ้อมในช่วงสุดท้ายที่สโมสรก่อนจะเปิดฉากสู้ศึกกันไปยาวๆ

ต้องย้อนกลับไปดูผลงานในเกมปรี-ซีซั่นของทีมยักษ์ใหญ่ว่าทำได้ดีแค่ไหน และมีการเปลี่ยนแปลงทีมอย่างไรบ้าง จะแข็งแกร่งและยืนระยะได้แค่ไหน มาติดตามดูกัน

Premier League Manchaster City

Manchaster City

ฤดูกาลที่ผ่านมา “เรือใบสีฟ้า” ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นด้วยการกวาด 3 แชมป์ ในฤดูกาลเดียว และกลายเป็นจุดพีกที่หลายคนมองว่า Pep Guardiola จะสามารถพาทีมรักษาระดับเดิมเอาไว้ได้หรือไม่ เพราะมีทีมคู่แข่งที่ยกระดับขึ้นมาด้วยการเสริมทีมจนแข็งแกร่ง

แชมป์เก่า” เปิดฉากเกมปรี-ซีซั่นที่ประเทศญี่ปุ่นและเก็บชัยชนะได้ 2 นัดรวดด้วยการเอาชนะทั้ง Yokohama F. Marinos และ Bayern Munich และแน่นอนหัวหอกหมายเลข 1 อย่าง Erling Haaland ยังรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้ ในขณะที่ Rico Lewis ก็โชว์ผลงานได้ดีในการช่วยเกมรับ ในรายของ Lewis ตกลงต่อสัญญาใหม่กับ Man City ออกไปอีก 6 ปี และคาดว่าจะเป็นอนาคตใหม่ของทีมในไม่ช้า

แต่อย่างไรก็ตามแชมป์ Premier League 3 สมัยติดต่อกัน ก็มีปัญหาให้ต้องกังวลเหมือนกัน โดยเฉพาะการเสียนักเตะประสบการณ์สูงออกจากทีมหลายคน กัปตันทีมอย่าง Ilkay Gündogan ก็ย้ายไปอยู่ Barcelona แล้ว ส่วน Joao Cancelo ฟูลแบ็กทีมชาติโปรตุเกสที่หมดสัญญายืมตัวกับ “เสือใต้” ก็คงไม่กลับมาร่วมทีม ในขณะที่ได้ Mateo Kovacic มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชียของ Chelsea มาเสริมทัพแทน

ในแนวรุก Riyad Mahrez ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ Al Ahli ในศึก Saudi Pro League และมีแนวโน้มว่าแบ็กขวาจอมเก๋าอย่าง Kyle Walker ก็อาจย้ายทีมก่อนเปิดฤดูกาลใหม่

ฤดูกาล 2023-24 จึงน่าติดตามว่า Man City จะยังคงแกร่งทั่วแผ่นเหมือนเดิมหรือไม่

Premier League Arsenal

Arsenal

ปืนโต” พลาดแชมป์ลีกไปอย่างน่าเสียดาย เหตุผลหนึ่งก็คือขุมกำลังยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการใช้ระบบหมุนเวียนนักเตะ ทำให้ Mikel Arteta ขออนุมัติงบประมาณจากบอร์ดบริหารซื้อแบบบึ้มๆ ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่อีกครั้ง และอาจเป็นการเดิมพันเก้าอี้กุนซือของตัวเองอีกด้วย

สองนักเตะใหม่ที่มีค่าตัวแพงมหาศาลที่ถูกซื้อเข้ามาร่วมทีมคือ Kai Havertz ทื่ซื้อมาจาก Chelsea ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ และยังจ่ายอีก 105 ล้านปอนด์ คว้า Declan Rice มาจาก West Ham

ผลงานในเกมปรี-ซีซั่นของทีมยักษ์ใหญ่ลอนดอนมีทั้งดีและไม่ดี ออกสตาร์ทนัดแรกในการทัวร์สหรัฐด้วยการพ่าย Manchester United 0-2 ประตู ก่อนจะกลับมาแก้ตัวด้วยการเอาชนะ Barcelona 5-3

Leandro Trossard ปีกทีมชาติเบลเยียมกลายเป็นผู้เล่นในแนวรุกที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด ในเกมปรี-ซีซั่น ส่วน Havertz ก็ดูเหมือนจะปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าทีมจะไม่มีปัญหาเสียเลย เกมรับของทีมยังไม่ค่อยมั่นคงนักและการปรับตัวของการซื้อนักเตะใหม่ก็จำเป็นต้องใช้เวลาเหมือนกัน โดยเฉพาะกับการได้ Jurrien Timber ปราการหลังชาวดัตช์ของ Ajax มาร่วมทีมด้วย และในการซื้อใหม่ก็มีนักเตะเก่าบางส่วนต้องย้ายออกจากทีมด้วย การเสีย Granit Xhaka อดีตกัปตันทีมจะทำให้แผงห้องเครื่องรวนหรือไม่ต้องมาติดตามอย่างใกล้ชิด

Premier League Manchester United

Manchester United

เพราะความสำเร็จของทีมร่วมเมืองอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ทำให้ Manchester United ต้องยกระดับการเล่นของตัวเองให้ขึ้นมามากกว่าเดิม ในเกมปรี-ซีซั่นพวกเขาเอาชนะ Arsenal ได้ แต่อีกสองเกมต่อมาก็พ่ายให้กับ Wrexham และ Real Madrid โดยนักเตะที่โดดเด่นกลายเป็น Kobbie Mainoo กองกลางดาวรุ่งวัย 18 ปี ไปเสียอย่างนั้นแหละ

นักเตะใหม่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือ Andre Onana ผู้รักษาประตูคนใหม่ที่จะมาเป็นเบอร์ 1 ของทีมแทนที่ David De Gea ซึ่งต้องบอกว่านายทวารทีมชาติแคเมอรูนก็ทำได้ดีพอตัว มีความมั่นใจ และการใช้เท้าเล่นบอลหรือการเปิดบอลก็ทำได้น่าประทับใจ ในขณะที่แดนกลางได้ Mason Mount ก็น่าจะทำให้เกมบุกมีความหลากหลายขึ้น และล่าสุดกำลังจะเซ็นสัญญาคว้าตัว Rasmus Hojlund กองหน้าทีมชาติเดนมาร์กของ Atalanta มายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า คาดว่าค่าตัวจะตกลงกันได้ที่ 72 ล้านปอนด์

Premier League Liverpool

Liverpool

หงส์แดง” จบผลงานในฤดูกาลที่แล้วแบบไม่น่าพอใจนัก แถมยังชวดโควตาไปเตะ UEFA Champions League จึงหมายมั่นปั้นมือจะต้องกลับมาแข็งแกร่งและติดท็อปโฟร์ให้ได้

หากแต่ Roberto Firmino, Naby Keita, James Milner และ Alex Oxlade-Chamberlain หมดสัญญากับทีม แถมล่าสุด Jordan Henderson กัปตันทีมได้ตัดสินใจอำลาทีมไปเล่นในฟุตบอลลีกของซาอุดิอาระเบียเพื่อรับค่าเหนื่อยมหาศาล และมี Fabinho ตามไปด้วยอีกราย

สำหรับสองกองกลางใหม่ที่ได้มาทั้ง Dominik Szoboszlai และ Alexis Mac Allister ถือเป็นความหวังใหม่ของทีมได้ แต่เมื่อทีมมีความเปลี่ยนแปลงเยอะก็อาจทำให้ทีมจำเป็นต้องจูนเครื่องใหม่เพื่อให้เข้าที่เสียก่อน

เกมปรี-ซีซั่นถือว่าแนวรุกทำผลงานได้ดีพอตัว Darwin Nunez เล่นด้วยความมั่นใจและปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้น ไม่ใช่กองหน้าที่ใช้โอกาสเปลืองเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ยิ่งได้เล่นเคียงข้างกับ Mohamed Salah,Luis Diaz มากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นสามประสานยุคใหม่ของ “หงส์แดง” ได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องหวังว่าจะไม่มีแนวรุกคนใดคนหนึ่งต้องเจ็บพักยาวเหมือนฤดูกาลที่แล้ว เพราะส่งผลกระทบกับทีมในช่วงท้ายฤดูกาลได้อย่างเด่นชัด