เรอัล มาดริด ได้ Jude Bellingham ตัดสินใจลงหลักปักฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาศักยภาพให้เขาก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับเวิล์ดคลาสอย่างแท้จริง
เขาจะได้เล่นเคียงข้างกับสองกองกลางดาวรุ่งอย่าง Eduardo Camavinga และ Aurelien Tchouameni ถือเป็นมิดฟิลด์พลังหนุ่มแห่งอนาคต ขณะเดียวกัน Luka Modric และ Toni Kroos สองมิดฟิลด์ตัวเก๋าก็จะยังอยู่ร่วมทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า หลังจากเสียแชมป์ La Liga ให้กับ Barcelona ในขณะที่ในศึก Champions League ก็พ่าย Man City ในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ เรอัล มาดริด ต้องมีการยกเครื่องครั้งใหญ่
แต่ดูเหมือนว่าทั้งนักเตะพลังหนุ่มและจอมเก๋าจะมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน คือเชื่อมั่นและรอคอยการกลับมาของ Zinedine Zidane
แม้ว่า Real Madrid จะมี Carlo Anceotti เป็นกุนซือคนปัจจุบันอยู่แล้ว แต่กุนซือชาวอิตาเลียนก็ตกเป็นข่าวลืออย่างหนักว่าจะผลักตัวเองออกจากตำแหน่งเพื่อไปคุมสโมสรอื่น รวมทั้งมีข่าวว่าจะคุมทีมชาติบราซิลด้วยซ้ำไป
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น อดีตแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ก็อยากให้ Zizou กลับมาคุมทีมเป็นสมัยที่ 3 ในปี 2024 เพราะมีคุณสมบัติเพียบพร้อมกับการรับมือกับบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ และในอนาคตอันใกล้นี้อาจจะได้ร่วมงานกับ Kylian Mbappe ด้วยก็ได้
Zidane ในสมัยค้าแข้งคือจอมทัพของ “ราชันชุดขาว” พาทีมประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเมื่อก้าวเป็นผู้จัดการทีมก็พาทีมกวาดความสำเร็จในระดับใกล้เคียงกัน การดึง Zidane กลับมาน่าจะเป็นเรื่องที่บอร์ดบริหารสโมสรที่นำทีมโดย Florentino Pérez ต้องเดินหน้าเจรจาด้วยตัวเอง ซึ่งน่าจะเป็นงานเดียวที่ไม่ต้องให้ Juni Calafat หัวหน้าทีมแมวมองของสโมสรเข้าไปเกี่ยวข้อง
Calafat เป็นชาวบราซิลเข้าเป็นแมวมองให้ Real Madrid ตั้งแต่ต้นปี 2014 สาเหตุที่ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ เพราะไม่อยากเห็นกรณีตัวอย่างที่ Barcelona ปาดหน้าคว้าตัว Neymar ไปร่วมทีม และสามารถสร้างผลงานได้ดีจนได้ขึ้นเป็นหัวหน้าทีมแมวมองของสโมสรเมื่อกลางปี 2017
ผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือการนำพานักเตะพรสวรรค์สูงจากบ้านเกิดมาอยู่กับ “ราชันชุดขาว” มากมาย คนที่โด่งดังที่สุดก็คือ Vinicius Jr. ที่ตอนนี้กลายเป็นกองหน้าเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งของโลก และเป็นสมบัตสุดหวงของ Real Madrid อีกด้วย
นอกจากนั้นก็ยังมี Rodrygo ที่ดีวันดีคืน และยังจะได้ Endrick กองหน้าที่จะมีวัยครบ 17 ในเดือนหน้าและจะเข้ามาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป จะเห็นได้ว่าแนวทางการสร้างทีมของ “ราชันชุดขาว” ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และกล่าวได้ว่าเป็นการทำงานกันแบบแยกส่วน ทางหนึ่งยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อตัวซูเปอร์สตาร์ แต่ในอีกทางหนึ่ง
ภารกิจหลังจากนั้นของหัวหน้าแมวมองสโมสรยิ่งโหดกว่าเดิมหลายเท่านัก เพราะจะต้องหาผู้เล่นรุ่นใหม่เพื่อมาทดแทน Casemiro, Toni Kroos, Luka Modric ที่เคยระเบิดฟอร์มเปรี้ยงอยู่ในช่วงรุ่งเรือง มีแฟนบอลหลายคนมีความเห็นว่าเป็นปฎิบัติการที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
แต่ในที่สุดการต่อจิ๊กซอว์ครั้งนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง Aurelien Tchouameni อายุ 23 ปี Eduardo Camavinga อายุ 20 ทั้งสองคนจะกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศส ในขณะที่ Jude Bellingham ที่จะมีอายุครบ 20 ในปลายเดือนนี้กลายเป็นตัวจริงในทีมชาติอังกฤษไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับด้วยว่าความแข็งแกร่งด้านการเงินของ Real Madrid และเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ของสโมสรทำให้การคว้านักเตะเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายมากกว่าหลายสโมสร
Liverpool ก็เคยสนใจ Tchouameni อยู่เหมือนกัน หากแต่การเจรจาไม่ค่อยคืบหน้า แต่พอหัวหน้าแมวมองของทีมยักษ์ใหญ่สเปนเปิดเกมรุกก็ได้ Tchouameni มาอย่างง่ายดาย กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับการเซ็นสัญญา Camavinga มาเหมือนกัน ต้องยอมรับว่าเป็นการเจรจาอย่างชาญฉลาดของ Calafat ทำให้ดีลแต่ละครั้งนี้สามารถบรรลุข้อตกลงอย่างไม่เกินความคาดหมาย
Bellingham มีผลงานโดดเด่นอย่างมากในการเล่นให้กับ Dortmund ในฤดูกาล 2021-22 และ “ราชันชุดขาว” ก็จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้จะอยากได้แต่ก็ไม่กระโตกกระตาก ในขณะที่เต็ง 1 ที่เชื่อว่ามีลุ้นได้ตัวไปร่วมทีมก็คือ Liverpool ตามมาด้วย Manchester United
เมื่อประมาณ 12-15 เดือนที่แล้ว พ่อเรียกผมไปนั่งคุยและบอกว่า Real Madrid สนใจอยากได้ผมไปร่วมทีมด้วย
Bellingham บอก
นี่แหละคือการรุกคืบแบบช้าๆ ของ Real Madrid
แนวทางสำคัญในการทำให้ดีลประสบความสำเร็จไม่ได้มีเงื่อนไขอยู่ที่ค่าตัว ค่าเหนื่อยที่ได้รับ ได้สัญญาเป็นเวลากี่ปี หรือว่ามีออพชั่นเสริมไหม แต่ใช้วิธีขายไปที่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของสโมสร และนั่นจะทำให้นักเตะหนุ่มเนื้อเต้น และฝันถึงช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมที่จะมาถึง
Florentino Perez กล่าวในการเปิดตัวต้อนรับ Bellingham ด้วยข้อความสั้นๆ เท่านั้น แต่เปี่ยมความหมายเขาบอกว่าคุณลักษณะพิเศษของ Real Madrid ก็คือการ “ไม่ยอมแพ้”
“ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ Champions Leagues 3 สมัยในช่วงระหว่างปี 2016-18 ซึ่งตอนนั้นมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษเพิ่งมีอายุแค่ 15 เท่านั้น และเมื่อเขาเติบโตขึ้นจนกลายเป็นดาวจรัสแสงในวงการลูกหนังเมื่อได้รับการติดต่อมาจากสโมสรที่สร้างความประทับใจให้ในวัยเด็ก จึงเป็นเรื่องง่ายอยู่แล้วที่เขาจะเลือกสร้างโอกาสดีๆ ให้กับตัวเอง
ตอนนี้จิ๊กซอว์ใกล้จะสมบูรณ์แบบเต็มที่แล้ว รอเพียงวันที่ Zidane จะกลับคืนสู่สโมสรอีกครั้ง และหวังว่าจะไม่นานเกินรอ
