Roberto De Zerbi ส่อแววเป็นทายาท Pep Guardiola ประโยคนี้จะดูไม่เกินจริง หากดูจากผลงาน Premier League ฤดูกาล 2023-24 แข่งขันกันมาได้ 5 นัดแล้ว แชมป์เก่าอย่าง Manchester City ยังออกสตาร์ทได้อย่างสะอาดหมดจด ด้วยการลงเล่น 5 นัดชนะรวดนำเป็นจ่าฝูง
ในขณะที่ ทีมระดับ “บิ๊กเนม” ที่มีปัญหามากที่สุด ยังคงเป็นทีมร่วมเมืองอย่าง Manchester United ที่ลงเล่น 5 นัดเช่นกัน ปรากฏว่าชนะแค่ 2 นัด แพ้ถึง 3 นัด โดยเล่นเกมเยือน 2 นัด แพ้หมด และเกมล่าสุดเล่นในถิ่น Old Trafford ของตัวเอง หมดฟอร์มด้วยการพลาดท่าพ่าย Brighton & Hove Albion 1-3 ประตู
Erik ten Hag
Erik ten Hag กุนซือชาวดัตช์ มีส่วนต้องรับผิดชอบกับฟอร์มการเล่นที่ผิดที่ผิดทางไปอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะสามารถอ้างได้ว่า ยังมีนักเตะตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บและยังไม่สามารถลงสนามได้ แต่การเล่นในถิ่นตัวเอง และโดนทีมเยือนครองบอลไว้ได้เกือบตลอด แถมจังหวะเข้าทำก็เฉียบขาดกว่า ทำให้กุนซือ “ผีแดง” ต้องน้อมรับคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วงด้วย
Gary Pallister อดีตปราการหลังของ “ผีแดง” ออกมาแสดงความเห็นว่า หนึ่งในปัญหาอย่างหนึ่งก็คือความขัดแย้งระหว่าง Erik ten Hag กับ Jadon Sancho ควรจบลงได้แล้ว เพราะเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่รบกวนสมาธิของทีม
“สงครามคำพูดที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเรื่องที่เคลียร์กันเป็นการภายในมากกว่าเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้น Erik เปิดเผยต่อสาธารณชนว่า ด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ต้องตัดนักเตะที่สร้างปัญหาออกจากทีม และ Sancho ก็เปิดปฎิกิริยาโต้กลับทันที แต่ถ้าเรื่องนี้จบลงด้วยดีก็จะสวยงามกว่า”
ผู้จัดการทีมหัวแถวใน Premier League
หากแต่ความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุด อาจจะไม่ใช่ความผิดของกุนซือชาวดัตช์เสียทีเดียวนัก ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ Brighton รวมถึงฝีมือในการวางแผนการเล่นของ De Zerbi
ก่อนหน้านี้ Pep Guardiola, Jurgen Klopp ครองความเป็นผู้จัดการทีมหัวแถวใน Premier League มายาวนาน ตอนหลังเริ่มมีชื่อของกุนซือรุ่นใหม่อย่าง Mikel Arteta, Graham Potter รวมไปถึง Steven Gerrard ที่อาจก้าวขึ้นมาแทนที่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครที่โดดเด่นเกินหน้า Roberto De Zerbi อีกแล้ว
De Zerbi ในอะคาเดมีของ AC Milan
ความเป็นมาของ Roberto De Zerbi ก่อนจะลงเอยกับ Brighton
กุนซือวัย 44 ปี เป็นชาวอิตาลี เกิดที่เมือง Brescia เขาเริ่มเล่นฟุตบอลโดยเข้าไปอยูใน อะคาเดมีของ AC Milan แต่ก็ไม่สามารถผลักดันตัวเองขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ได้ จากนั้นก็ย้ายไปเล่นกับสโมสรที่ไม่ได้อยู่ใน Series A โดยตำแหน่งที่เขาเล่นนั้น คือมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกม เป็นกองกลางเชิงสูง เทคนิคดีเยี่ยม
หลังจากตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 33 ปี และหันไปเป็นผู้จัดการทีมสโมสรเล็กๆ อย่าง Darfo Boario แต่คุมทีมได้เพียงปีเดียวก็ย้ายไปคุม Foggia ซึ่งเป็นสโมสรเก่าที่เขาเคยเล่นมาก่อน จากนั้นเขาสะสมประสบการณ์ในการเป็นผู้จัดการทีมของอีกหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น Palermo, Benevento, Sassuolo
สมัยคุมทีม Sassuolo
ในช่วงที่คุมทีม Sassuolo ผลงานถือว่าเด่นเตะตา โดยเฉพาะในฤดูกาล 2019-20 ที่สามารถพาทีมจบฤดกาลใน Series A ด้วยการคว้าอันดับ 8
กุนซือชาวอิตาเลียนสร้างความฮือฮา เมื่อเซ็นสัญญาย้ายไปเป็นผู้จัดการทีม Shakhtar Donetsk ทีมยักษ์ใหญ่ของยูเครนเมื่อ 25 พ.ค. 2021 แต่คุมทีมได้ไม่นานก็เกิดปัญหาสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้
แต่กุนซือวัย 44 ปี ตกงานได้ไม่นาน ก็ได้รับการติดต่อจากผู้บริหารของ Brighton เพื่อให้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ เพื่อมาแทนที่ Graham Potter ที่ลาออกไปคุม Chelsea
คุมทีม Brighton ปัจจุบัน
Brighton สโมสรเล็กๆ มีผลงานที่วูบวาบพอตัว ในยุคของ Potter แต่เมื่อ De Zerbi เข้ามาคุมทีมมีการหวั่นเกรงว่าเขาจะทำผลงานได้ดีเท่าหรือไม่ แต่ในนัดแรกที่คุมทีมเมื่อ 18 ก.ย. 2022 ปราฎว่า เขาพาทีมเสมอทีมยักษ์ใหญ่อย่าง Liverpool 3-3 ประตู
จากนั้นผลงานของ Brighton ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นบอลที่ใช้การเคาะบอลสั้นอย่างต่อเนื่อง การขึ้นบอลจากแดนหลังขึ้นมาแน่นอน ไม่มีอาการลนลานให้เห็น การเคลื่อนไหวของบอลจะไหลลื่นต่อเนื่อง เกมรุกมีสีสันมาก และทีมจบผลงานในฤดูกาล 2022-23 ด้วยการได้อันดับ 6
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังปลุกปั้นนักเตะหนุ่มหลายคนให้แจ้งเกิด เลือก Kaoru Mitoma ปีกซ้ายทีมชาติญี่ปุ่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ Pervis Estupiñán แบ็กซ้ายจอมลุย Pascal Groß ดาวเตะชาวเยอรมันที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แบ็กขวา และมิดฟิลด์ตัวรุก
ในฤดูกาล2023-24 แม้จะปล่อยตัว Moises Caicedo มิดฟิลด์ทีมชาติเอกวาดอร์ให้ Chelsea ปล่อย Alexis Mac Allister ให้ Liverpool แต่ผลงานของทีมก็แทบไม่กระเทือนเลย แน่นอนว่า Roberto De Zerbi มีส่วนสำคัญอย่างมาก
De Zerbi Guardiola
กุนซือชาวอิตาเลียนมีสไตล์การคุมทีมเฉพาะตัว เขาให้สำคัญมากที่สุดกับการครองบอล ต่อบอล และการเคลื่อนที่ ระบบการเล่นที่ดีเยี่ยม ทำให้นักเตะเล่นอย่างอิสระ เข้าใจเกมมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อทำได้ยอดเยี่ยมแล้วก็จะสนุกสนานในการเล่น
พูดง่ายๆ สไตล์การทำทีมของเขาคล้ายกับ Guardiola ที่ทำให้เห็นมานานหลายปีแล้วกับ Manchester City ที่สำคัญ De Zerbi ก็เคยผ่านการเล่นให้ Brescia มาก่อนเหมือนกันอีกด้วย
และ Pep ก็เคยยอมรับว่า De Zerbi เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่เขายอมรับนับถือมาก เพราะสามารถสร้างทีมให้เล่นเกมรุกได้น่าตื่นตา ไม่ใช่สไตล์การทำทีมเหมือนทีมจากอิตาลีส่วนมาก เป็นทีมที่มีสไตล์ตัวเองมากๆ และมีอนาคตที่น่าจับตา
ถ้าหากเขารักษาระดับฝีมือในการคุมทีมได้เช่นนี้ต่อไป บางที Roberto De Zerbi อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะคุมทีม Man City หากว่า Pep Guardiola ตัดสินใจอำลาตำแหน่งในสักวันหนึ่ง
อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
