ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย
ความฝันอันยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย เหล่าแฟนบอลหรือกองเชียร์ชาวไทยทุกคน ต้องอยากเห็นทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ผ่านทะลุเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งในตอนนี้ ทีม “ช้างศึก” กำลังอยู่ภายใต้การนำทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ
แต่ในตอนนี้ก็ยังดูไม่มีวี่แววว่า ความฝันของทีมชาติไทย และแฟนบอลชาวไทยจะเป็นจริงได้ หากแต่ในรายการ ฟุตบอลโลก 2026 ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือที่พวกเราเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า AFC ได้ทำการตัดสินใจ ปรับระบบการคัดเลือกตัวแทนทวีปเอเชียใหม่ทั้งหมด
แต่เดิมนั้น การแข่งขันในรอบสุดท้ายของทวีปเอเชียจะมี 12 ทีม แต่ในการแข่งขันครั้งนี้ จะเพิ่มทีมอีก 6 ทีม รวมทั้งหมดเป็น 18 ทีม โดยจะคัดทีมจำนวน 8 ทีม เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยระบบการแข่งขันมีดังนี้

การคัดเลือกรอบที่ 1 : ทีมอันดับที่ 26 ถึง 47 ของทวีปเอเชีย จะประกบคู่แบบน็อคเอาท์ เหย้า-เยือน โดยจะมีอีก 11 ทีมที่ได้เข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบที่สอง
การคัดเลือกรอบที่ 2 : 36 ทีมในรอบนี้จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 9 ทีม แข่งขันแบบเหย้า-เยือน แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม เข้าสู่รอบ 18 ทีมสุดท้าย โดยทั้ง 18 ทีมนี้จะได้สิทธิ์ลงเล่นในศึกเอเชียนคัพ 2027 รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ (ทีมที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกจะไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ คัดเลือกเอเชี่ยนคัพ ที่จะคัดอีก 6 ทีมเข้ารอบสุดท้ายต่อไป)
ปรากฏว่าการแข่งขันในรอบ 2 ของโซนเอเชีย ทีมชาติไทยอยู่ร่วมสายกับ เกาหลีใต้, จีน และ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสายที่มีความหินพอสมควร หลังเกมที่ “ช้างศึก” บุกไปเสมอ เกาหลีใต้ ไป 1-1 ความหวังก็เริ่มปรากฎให้เห็นอยู่รำไร โดยเฉพาะนับตั้งแต่ได้ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นเข้ามาคุมทีม แนวทางการเล่นของทีมชาติไทย ก็ดูดีขึ้นอย่างมาก เกมรับแน่น จังหวะการเล่นเกมโต้กลับก็ทำได้ดี
ประกอบกับเกมนัดสอง ที่ทีม “ช้างศึก” ต้องเปิดสนาม ราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อต้อนรับการมาเยือนของ “โสมขาว” โดยมีแฟนบอลชาวไทย แห่แหนเข้ามาชมเกมการแข่งขันเต็มความจุสนาม ด้วยหวังว่าบรรยากาศของ “ช้างศึกฟีเวอร์” อาจจะทำให้สถานการณ์พลิกผันได้

สถานการณ์ก่อนที่เกมการแข่งขัน จะเริ่มบรรเลงแข้งกันนั้น, เพียงแค่ ทีมชาติไทย สามารถแบ่งแต้มเพียงแต้มเดียวจาก ทีมชาติเกาหลีใต้ ในเกมนี้ได้ โอกาสที่ ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม ก็อยู่ไม่ไกลเกินความเป็นจริงแล้ว
แต่ผลการแข่งขันในเกมนี้ ปรากฏว่าทีม “โสมขาว” กลับเป็นฝ่ายจัดเต็มทุกอย่าง ด้วยการบุกมาถล่มทัพ “ช้างศึก” ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 3-0 ประตู และทำให้โอกาสเข้ารอบของทีมชาติไทย ไม่ได้สดใสเหมือนกับในตอนแรก
โดยในสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากผ่านการลงสนามไปทั้งหมด 4 นัด, ทีมชาติเกาหลีใต้ นำโด่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม C ด้วยคะแนนที่มีอยู่ถึง 10 คะแนน อันดับ 2 ทีมชาติจีน มี 7 คะแนน อันดับ 3 เป็นทีมชาติไทย มีอยู่ 4 คะแนน และ ทีมชาติสิงคโปร์ อันดับ 4 มีแค่ 1 คะแนน
เกมนัดต่อไป, ทีมชาติไทย มีโปรแกรมจะต้องบุกไปเยือน เพื่อเจอกับ ทีมชาติจีน ในวันที่ 6 มิถุนายน และ กลับมาเล่นในบ้านนัดสุดท้าย เพื่อเจอกับ ทีมชาติสิงคโปร์ วันที่ 11 มิถุนายน หากทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ ทีมชาติจีน และเอาชนะทีมชาติสิงคโปร์ด้วยผลสกอร์ที่ขาด ก็ยังมีโอกาสลุ้นเข้าสู่รอบ 3 ได้
ความเห็นของ มาซาทาดะ อิชิอิ
มาซาทาดะ อิชิอิ ออกมายอมรับหลังจบเกมว่า ทีม “โสมขาว” เล่นดีมากในเกมนี้ จุดเด่นที่สุดของทีมเยือนก็คือ ความเร็ว และความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ทีมชาติไทย อย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับเกมนี้ ฝั่งของ เกาหลีใต้ เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มจริง ๆ แต่กุนซือทัพช้างศึกก็ยังคงเชื่อว่า ทีมชาติไทยยังมีโอกาสเข้ารอบต่อไปได้
“ผมคิดว่า เรายังมีเวลาในการวางแผนการเล่นก่อนถึง 2 นัดสุดท้าย ผมยอมรับว่า พวกเรามีสมาธิแค่การเตะกับเกาหลีใต้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนแปลงโค้ช ซึ่งเราจะนำเอาเทปการเล่นใน 2 เกมที่ผ่านมา มาวิเคราะห์เพื่อเตรียมพร้อมต่อไป ผมเชื่อว่า ทีมชาติไทย ยังมีโอกาสในการเข้ารอบอยู่ใน 2 นัดที่เหลือ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้” กุนซือชาวญี่ปุ่นกล่าว

ปัญหาใหญ่ที่น่ากังวลสำหรับทีมชาติไทย ก็คือสภาพความพร้อมของทีม เพราะ ธีราทร บุญมาทัน และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ได้รับบาดเจ็บในการแข่งขัน และยังไม่แน่ใจว่า พวกเขาจะฟิตพร้อมเต็มที่สำหรับเกมที่เจอกับ ทีมชาติจีน หรือไม่ ต้องยอมรับว่า เกมที่เจอกับ “โสมขาว” การที่ไม่มี ธีราทร และ พีรดนย์ อยู่ในสนามเต็ม 90 นาที ส่งผลต่อรูปเกมของ ทีมชาติไทย อย่างมาก
ในขณะที่ ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มในนัดนี้ แถมยังทำ 1 ประตูสุดสวยให้ทีม ได้ออกมาเผยว่า แม้ตนเองจะดีใจที่เกาหลีใต้เก็บชัยชนะมาได้ แต่เกมนี้ ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน ปัจจัยที่ยากก็คือ สภาพอากาศที่ร้อน แถมยังมีความชื้นอีกมาก บวกกับสนามหญ้าที่ราชมังคลากีฬาสถาน ก็มีความแตกต่างจากที่เกาหลีใต้ไม่น้อยเลยด้วย
กัปตัน ทีมชาติเกาหลีใต้
“ผมคิดว่าผู้เล่นของเราเล่นได้ดีมากในเกมนี้ ที่เห็นได้ชัดก็คือ การเล่นกันเป็นทีมมากขึ้น ทุ่มเทในการเล่นมากขึ้น ทำให้เกมนี้เราเล่นได้ดีอย่างเห็นได้ชัด และหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป” ซน ฮึง-มิน กล่าวหลังจบเกม
ก่อนหน้านี้ ซน ฮึง-มิน เคยมีข่าวว่า มีปัญหาขัดแย้งกับ อี คัง-อิน นักเตะรุ่นน้องในแคมป์ทีมชาติ ระหว่างศึกเอเชียนคัพ แต่ในเกมนี้ อี คัง-อิน โชว์ฟอร์มได้ดีมาก ๆ และยังทำแอสซิสต์ได้ด้วย

“ผมมั่นใจว่า เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม ผมพูดไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า เขาคือนักเตะที่จะเป็นผู้นำทีมในอนาคต และเขาเล่นได้ดีมาก” ซน ฮึง-มิน กล่าวถึง อี คัง-อิน
สำหรับอันดับโลกของทีม “ช้างศึก” หลังเกมพ่ายคาถิ่นให้กับ “โสมขาว” ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยก็เป็นได้
อ่านข่าวอื่น ๆ ของเว็บไซต์ : Kodbaball
หรือติดตามและพูดคุยกันผ่านเพจ : โคตรบ้าบอล